บทความ

“เทรนเนอร์ และ คนทั่วไป ควรปรับตัวอย่างไร” จากใบประกอบวิชาชีพสาขาการกำหนดอาหาร

“เทรนเนอร์ และ คนทั่วไป ควรปรับตัวอย่างไร”

หลังจากที่มีพระราชกฤษฎีกาที่ให้คนที่จะทำหน้าที่กำหนดอาหาร “ต้อง” ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะ ถือเป็นข่าวที่ดีว่าตั้งแต่นี้ต่อไปคงจะเป็นช่วงเวลาที่ดีขึ้น ที่จะช่วยให้ลูกค้า “หยุด” ขอตารางการกินจากเทรนเนอร์ เทรนเนอร์หยุดแจกตารางการกินมั่วซั่วจากประสบการณ์ตัวเอง และโค้ชเถื่อนขายอาหารเสริม หยุดการใช้อาหารเสริมปรับการกินเพื่อรักษาโรค หรือลดความอ้วนซักที

ในฐานะที่ผมจบปริญญาโทโภชนาการการออกกำลังกายและการกีฬาโดยตรง จากมหาวิทยาลัย Leeds Beckett มา 7-8 ปีแล้ว และทำหน้าที่สอนคอร์สโภชนาการให้กับเทรนเนอร์และคนทั่วไปที่สถาบัน FIT และก็ยังเป็นนักเรียนที่เข้าอบรมคอร์สโภชนาการและการออกกำลังกายต่าง ๆ อยู่เสมอ ผมขอแนะนำและปรับความเข้าใจในเรื่องการปรับการกินทั้งของเทรนเนอร์และของทางฝั่งลูกค้า/คนทั่วไป ดังนี้ครับ

ลูกค้า/คนทั่วไป

- อย่าขอตารางการกินจากเทรนเนอร์เป๊ะ ๆ เลย คุณไม่ใช่นักโทษที่ต้องให้มีใครมาสั่งหรือกำหนดว่าเราต้องกินอะไรเลย เมื่อคุณทำโดยที่คุณไม่เข้าใจหรือเรียนรู้เพิ่มเติม ต้องรอให้คนบอกหรือสั่งตลอดเวลา ถึงจะเห็นผล แต่ผลลัพธ์ที่ได้มันก็อยู่กับคุณไม่นาน เพราะคุณทำโดยปราศจากความเข้าใจ

- ในช่วงแรกที่คุณอยากจะลดน้ำหนัก เปลี่ยนแปลงรูปร่าง คุณจะชอบขอให้คนอื่นมาสั่งคุณ แต่ในความเป็นจริง ลึก ๆ แล้ว ไม่มีคนชอบถูกสั่งหรือถูกกำหนดว่าต้องทำอะไร ต้องกินอะไร ตอนไหน ปริมาณเท่าไหร่หรอก

- คุณเป็นเจ้าขอชีวิตตัวเอง คุณรู้ว่าคุณชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ถึงเทรนเนอร์จะจัดตารางให้คุณยังไง ถ้าคุณไม่ชอบ ไม่สอดคล้องกับตัวคุณเอง คุณก็ทำไม่ได้อยู่ดี

- ผลลัพธ์ที่ดีและยั่งยืน มันต้องออกมาจากการทดลอง ปรับปรุงจากตัวคุณเอง โดยมีเทรนเนอร์เป็นคนคอยสนับสนุนให้ความช่วยเหลือ

- ถ้าเจอเทรนเนอร์หรือโค้ชอาหารเสริมมาสั่งว่าต้องกินเท่านั้นเท่านี้ ให้กินผลิตภัณฑ์ตัวนั้นตัวนี้ ให้กินตามตารางที่เค้าจัดให้ ขอให้รีบออกห่างโดยไว

_________________________

เทรนเนอร์

- ถ้าคุณเรียนหลักสูตรการเป็นเทรนเนอร์มืออาชีพ สิ่งที่คุณจะได้เรียนในหัวข้อแรก ๆ คือ “จรรยาบรรณของการเป็นเทรนเนอร์มืออาชีพ”

- การกำหนดอาหาร หรือ แจกตารางการกินแบบเป๊ะ ๆ ว่าในแต่ละวันต้องกินอะไรบ้าง ปริมาณเท่าไหร่ มันเป็นสิ่งที่ “ไม่สมควรทำ” อยู่แล้ว

- สิ่งที่ควรทำ คือ “สอนและให้คำแนะนำ” ว่าสารอาหารอะไรทำหน้าที่อะไร มีประโยชน์อย่างไร ควรปรับการกินยังไงให้สอดคล้องเป้าหมายและกิจกรรมที่ทำ

- สามารถคำนวณ TDEE, BMR หรือสารอาหารที่ต้องการในแต่ละวันได้ ให้ข้อมูลได้ว่าอาหารแต่ละอย่างให้สารอาหารอะไร ในปริมาณเท่าไหร่ได้ แต่ “ไม่สามารถกำหนด” เป็นตารางการกินว่าต้องกินอันนั้นเท่านั้นเท่านี้ได้

- แนะนำการกินเพื่อให้สุขภาพหรือสมรรถภาพร่างกายดีขึ้นได้ แต่“ไม่สามารถ” เคลมหรือพูดได้ว่าการกินแบบนั้นแบบนี้จะรักษาโรคได้ ไม่แอบอ้างเกินความเป็นจริง

- “สามารถ” ยกตัวอย่างอาหารว่าให้พลังงานและสารอาหารเท่าไหร่โดยคร่าว ๆ ได้

- “ไม่สามารถ” บอกลูกค้าว่าขาดสารอาหารอะไรบ้าง ต้องแก้โดยการกินอาหารหรืออาหารเสริมชนิดนั้นชนิดนี้เท่านั้นได้

- ให้คำแนะนำตามความรู้ที่เรามี ไม่ใช่ให้ตามที่ลูกค้าคาดหวัง ถ้าความรู้ยังน้อยแต่อยากเก่งขึ้น ก็ศึกษาเพิ่มเติมจากแหล่งที่น่าเชื่อถือและมีมาตรฐานระดับสากลให้มากขึ้น

- ทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญทางด้านอื่นให้มากขึ้น เราไม่จำเป็นต้องเก่งหรือทำได้ทุกอย่าง

_________________________

โค้ชอาหารเสริม

- ไม่ขอพูดถึง บางคนก็ดีมีความรู้ แต่ส่วนมากไม่มี อยากรวย เห็นแก่เงินมากกว่า

- ถ้าอยากจะทำแบบที่ทำอยู่ ก็ไปเรียนและสอบขึ้นทะเบียนให้ได้

- อาหารเสริม คือ เสริมส่วนที่ขาด ไม่ใช่เอามาเป็นอาหารหลัก

- การเข้าคอร์สเรียนระยะสั้น 1-2 วัน หรือลดความอ้วนเองได้ ไม่สามารถอ้างตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านอาหารได้

_________________________

“ถ้าเราทำรู้หน้าที่ตัวเอง รู้ว่าเรามีความสามารถแค่ไหน รู้ว่าเราทำในสิ่งที่ควรทำอยู่ เราก็ไม่ต้องกลัวอะไร ทำหน้าที่ที่ดีของเราต่อไป”

ผมอยากจะเป็นส่วนเล็ก ๆ ส่วนหนึ่ง ที่ทำให้ประเทศไทยเป็นสังคมที่มีสุขภาพและรูปร่างที่ดีอย่างถูกต้องจริง ๆ

อยากเป็นส่วนนึงที่ช่วยยกระดับมาตรฐานของอาชีพเทรนเนอร์ให้สูงขึ้น เป็นอาชีพที่ได้รับความเคารพและการยอมรับจากคนทั่วไปมากขึ้น ไม่ใช่ถูกมองว่า ใครจะมาเป็นก็ได้ เป็นครูพละ เป็นแค่คนสอนออกกำลังกาย เป็นแค่คนแนะนำการใช้เครื่องออกกำลังกาย หรือเลวร้ายที่สุดก็เป็นแค่คนขายคอร์สหิวเงินคนนึง

** บทความนี้แค่ความคิดเห็นในเรื่องนี้จากความรู้จากการเรียน และประสบการณ์การทำงานของผมเท่านั้น อาจจะขาดตกบกพร่อง หรือ ผิดพลาดประการใด ขออภัย ณ ที่นี้ด้วยครับ **

________________________

นิว วีระเดช ผเด็จพล

MSc. Sport & Exercise Nutrition, Leeds Beckett University, UK

Certified Strength & Conditioning Specialist (NSCA)

Certified Personal Trainer (NSCA)

ผู้ร่วมก่อตั้ง Fit-D Fitness และเว็บไซต์ fit-d.com

Educator at FIT

IG: new_fitd

#Newtrition #TeamFitD #FitDFitness

#HappyHealthyLifestyle #GetFitTheRightWay

#certified #personaltrainer #CSCS

#FatLossForever #EatandTrain #EatWellTrainSmart