Let's talk about Eating Disorder
สวัสดีค่ะทุกคน อาทิตย์นี้เป็น National Eating Disorder Awareness week ค่ะ ที่ทุกๆปี จะมีหนึ่งอาทิตย์ ที่เป็นสัปดาห์ของการรณรงค์ให้ความรู้ สร้างความเข้าใจ และเปิดโอกาสให้คนได้พูดถึงเรื่องของโรคที่เกี่ยวกับพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ผิดปรกติให้มากขึ้น เนื่องจากในปัจจุบันมีคนที่เป็น ED (Eating Disorder) เพิ่มขึ้นมาก ไม่ว่าจะจากความกดดันทางสังคม หรือความเครียด หรือการที่สื่อต่างๆในทุกวันนี้ต่างยกย่องเชิดชูคนที่ผอมและรูปร่างดีว่าเป็นที่นิยม ทำให้เกิดการสร้างพฤติกรรมการกินที่ไม่ปรกติ รวมไปถึงเกิดชุดความคิดที่ทำให้พัฒนากลายเป็น ED ได้
ED ในทางการแพทย์แล้วถือเป็นโรคทางจิตเวชชนิดหนึ่ง ที่เรามักจะได้ยินคำศัพท์ทาง clinical terms ที่จำแนกประเภทของโรคไว้ อย่างเช่น 1. Anorexia Nervosa หรือโรคที่กลัวตัวเองอ้วนจนไม่กินอะไร หรือออกกำลังกายอย่างหนักเพราะกลัวน้ำหนักขึ้นทั้งๆที่ผอมมากอยู่แล้ว หรือ 2. Bulimia Nervosa ที่ประกอบไปด้วย episode ของการ binging หรือการกินไม่หยุดแบบควบคุมตัวเองไม่ได้ และการ purging คือการพยายามเอาสิ่งที่กินนั้นออกไปจากร่างกายไม่ว่าจะจากการล้วงคอ หรือกินยาถ่าย หรือ 3. Binge Eating คือบุคคลที่กินอาหารในปริมาณที่มากและไม่สามารถควบคุมได้จนกระทั่งถึงจุดที่กินจนร่างกายรับไม่ไหวถึงจะหยุด แต่กลุ่มนี้จะไม่ได้พยายามกำจัดอาหารนั้นๆออกเหมือน Bulimia แต่จะเป็นความรู้สึกผิด รู้สึกแย่กับตัวเองตามมา (สิ่งที่ทำให้ Binge Eating แตกต่างจากการออกไปกินสังสรรค์ หรือกินเยอะเกินเป็นบางครั้งบางคราว คือการ Binge เป็นความรู้สึกที่ควบคุมตัวเองไม่ได้และพยายามแยกตัวเองออกจากสังคม คนที่มีอาการจะรู้สึกว่าตัวเองต้อง binge “เดี๋ยวนี้” และยังมี 4. Orthorexia Nervosa หรือโรคที่คลั่งเรื่องของ “สุขภาพ” มากจนเกินไป คือต้องกินแต่อาหารที่เรียกว่า “คลีน” เท่านั้น และมีความวิตกกังวลกับการเลือกกินอาหารที่ “ไม่คลีน” มากผิดปรกติ
ยังคงมีพฤติกรรมการกินที่ผิดปรกติอีกหลายรูปแบบค่ะ และพฤติกรรมเหล่านี้สามารถเพิ่มความรุนแรงไปจนถึงทำให้เกิดการเสียชีวิตได้ รู้ไหมคะว่าจากสถิติในปัจจุบัน ED เป็นโรคที่มีอัตราการตายสูงที่สุดของโรคทางจิตเวชเลยทีเดียวค่ะ
แพรก็เคยเป็นคนนึงที่เคยมี Eating Disorder ค่ะ และจะไม่อาย หรือปิดบัง ที่จะพูดถึงมันในวันนี้ เพื่อให้ใครๆได้รับรู้ ว่ามันมีอยู่จริง และมันเกิดขึ้นได้กับเราๆทุกคน ไม่จำกัดเพศ ไม่จำกัดอายุ และไม่มีสถานะจำกัดว่าคุณจะเป็นใคร หรือแม้แต่คนที่เราเห็นว่าภายนอกปรกติดี ก็สามารถเป็น Eating Disorder ได้ทั้งนั้น
สิ่งที่สำคัญของ ED คือตัวพฤติกรรมเองมักจะไม่ใช่ปัญหาที่แท้จริง แต่ปัญหา “เบื้องหลัง” ที่กระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมการกินที่ผิดปรกติต่างหาก ที่เป็นปัญหาที่แท้จริงที่ต้องได้รับการแก้ไข แต่รูปแบบการกินที่ผิดปรกติ เป็นหนึ่งในวิธีที่เราหลีกเลี่ยงปัญหาหรือพยายามแก้ไขปัญหา...ที่ไม่ใช่ที่ต้นตอของมัน
ในฐานะที่วันนี้แพรเป็นโค้ชทางด้านสุขภาพและโภชนาการ ก็ต้องบอกก่อนว่า scope of practice หรือหน้าที่ของโค้ชจะไม่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาที่ต้นตอของคนที่มี Eating Disorder ได้เหมือนอย่างนักจิตบำบัด หรือจิตแพทย์ แต่เราสามารถแนะนำแนวทางของการกินที่เหมาะสม และการฝึกการมี self awareness ในพฤติกรรมต่างๆด้านอาหาร ควบคู่ไปกับการรักษาได้ค่ะ
ใครที่กำลังคิดว่าตัวเองเป็นอยู่ อย่ารอให้อาการเป็นหนักแล้วถึงค่อยหาแนวทางในการช่วยตัวเอง หรืออย่ากลัว และอย่าอาย ถ้าจะต้องไปปรึกษาใคร ทุกอย่างมีทางออก อย่าเก็บไว้คนเดียวค่ะ
โค้ชแพร – แพร เอมเมอรี่
ACE certified PT
ACE Certified Health Coach
PN Lv1 (Certificate in exercise nutrition)
Women Fitness Specialist (FIT)