A PHP Error was encountered

Severity: Warning

Message: getimagesize(): Peer certificate CN=`ptm.fit-d.com' did not match expected CN=`fit-d.com'

Filename: libraries/Header_tag.php

Line Number: 112

Backtrace:

File: /var/www/fit-d/application/libraries/Header_tag.php
Line: 112
Function: getimagesize

File: /var/www/fit-d/application/controllers/Blog.php
Line: 112
Function: set_image_preview

File: /var/www/fit-d/index.php
Line: 323
Function: require_once

A PHP Error was encountered

Severity: Warning

Message: getimagesize(): Failed to enable crypto

Filename: libraries/Header_tag.php

Line Number: 112

Backtrace:

File: /var/www/fit-d/application/libraries/Header_tag.php
Line: 112
Function: getimagesize

File: /var/www/fit-d/application/controllers/Blog.php
Line: 112
Function: set_image_preview

File: /var/www/fit-d/index.php
Line: 323
Function: require_once

A PHP Error was encountered

Severity: Warning

Message: getimagesize(https://fit-d.com/uploads/blog_cover/d586325780da5e3a859abe5a0be81b85.jpg): failed to open stream: operation failed

Filename: libraries/Header_tag.php

Line Number: 112

Backtrace:

File: /var/www/fit-d/application/libraries/Header_tag.php
Line: 112
Function: getimagesize

File: /var/www/fit-d/application/controllers/Blog.php
Line: 112
Function: set_image_preview

File: /var/www/fit-d/index.php
Line: 323
Function: require_once

ไขมัน (FAT) “ไม่ใช่ผู้ร้าย” - Fit-d.com

บทความ

ไขมัน (FAT) “ไม่ใช่ผู้ร้าย”

          เมื่อได้ยินคำว่า “ไขมัน” หรือ “Fat” มันช่างทำให้เรานึกถึงความอ้วนกับเจ้าก้อนสีเหลือง ๆ ที่ใคร ๆ ก็ตราหน้าว่ามันไม่ดี แต่อันที่จริงแล้ว ไขมัน คือ สารอาหารหลักชนิดหนึ่งที่จำเป็นมาก ๆ ต่อร่างกาย เป็นหนึ่งในสารอาหารที่ร่างกายต้องมี ไม่ใช่ผู้ร้ายอย่างที่ใคร ๆ เข้าใจ เพียงแต่เราต้องรู้จักเลือกประเภทของไขมันให้เหมาะสม และวิธีที่เราจะเลือกประเภทของไขมันได้อย่างเหมาะสมนั้น เราจำเป็นที่จะต้องรู้จักประเภทของไขมันกันก่อนค่ะ

 

ประเภทของไขมัน

  • ไขมันอิ่มตัว (Saturated Fat) คือ ไขมันที่มีลักษณะแข็งตัวเมื่ออยู่ในอุณหภูมิห้อง เช่น ไขมันจากสัตว์ ไขมันจากพืช (น้ำมันมะพร้าว น้ำมันปาล์ม) ไขมันเนย เป็นต้น
  • ไขมันไม่อิ่มตัว (Unsaturated Fat) สามารถแบ่งย่อยออกได้เป็น 2 ประเภท

             1.ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (Monounsaturated Fat) ที่มาจากอโวคาโดและพืชตระกูลถั่ว

            2.ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (Polyunsaturated Fat) ที่มาจากน้ำมันของเมล็ดพืชชนิดต่าง ๆ เช่น Flax Seed oil, Canola Oil, Sun Flower oil และน้ำมันจากปลาชนิดต่าง ๆ ที่ประกอบไปด้วย Omega-3 และ Omaga-6

 

ไขมันที่ดีคืออะไร?

          ในปัจจุบันคนส่วนใหญ่จะจัดกลุ่มของไขมันไม่อิ่มตัว (unsaturated fat) ว่าเป็นไขมันที่ดีต่อร่างกาย มากกว่าไขมันอิ่มตัว (saturated fat) แต่ในความเป็นจริงดั้งเดิมของมนุษย์เราต่างมีชีวิตอยู่ด้วยการรับประทานไขมันทั้ง 2 ประเภท เรารับไขมันจากสัตว์ตามธรรมชาติที่นับว่าเป็นไขมันอิ่มตัวมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ ดังนั้น ไขมันที่ดีอาจไม่ได้จำกัดอยู่ที่ไขมันประเภทใดประเภทหนึ่ง เพราะร่างกายควรได้รับประเภทของไขมันที่แตกต่างกันเพื่อความสมดุลของระบบการทำงานของร่างกาย ดังนั้นคำจำกัดความของคำว่าไขมันที่ดีควรจะเป็น

 

“ไขมันที่ไม่ได้มีการดัดแปลงและเป็นไขมันที่มาจากแหล่งธรรมชาติ”

 

          ส่วนไขมันที่ไม่ดี จริง ๆ นั่นก็คือไขมันที่มาจากการดัดแปลง ตัดแต่ง หรือเพิ่มเติมจากแหล่งธรรมชาติ เช่น ไขมันทรานส์ (Trans Fat) ที่ปรากฏอยู่ในอาหารแปรรูปต่าง ๆ เนยมาการีน (Magarine) ที่เป็นไขมันดัดแปลงเพิ่มเติม Hydrogen เข้าไปเพื่อทำให้ไขมันนั้นมีความแข็งตัวเพิ่มมากขึ้น อยู่ได้นาน และไม่มีกลิ่น ไขมันทรานส์นั้นคือตัวร้ายที่เราควรหลีกเลี่ยงและลดการบริโภคให้ได้มากที่สุด เพราะหากเราบริโภคไขมันชนิดนี้เป็นเวลานาน นอกจากจะทำให้ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดเพิ่มสูงขึ้นแล้ว ยังเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดได้อีกด้วย

 

กินไขมันอย่างไรจึงเหมาะสม?

          ตามหลัก  Hand Portion Size สำหรับบุคคลทั่วไป หลักการรับประทานไขมันที่เหมาะสมคือ 1 หัวแม่โป้ง ต่ออาหารหนึ่งมื้อสำหรับผู้หญิง ส่วนผู้ชายแนะนำให้ทาน 2 หัวแม่โป้งต่อหนึ่งมื้อ และควรเป็นไขมันจากแหล่งธรรมชาติ เน้นที่ไขมันไม่อิ่มตัว (unsaturated fat) มากกว่าไขมันอิ่มตัว (saturated fat) โดยเฉพาะความสมดุลของกรดไขมัน Omega-3 และ Omega-6 ที่เหมาะสมคือ 1:1 แต่ในปัจจุบันเราได้รับไขมันที่มี Omega-6 จากเหล่าน้ำมันพืชต่าง ๆ มากกว่าถึง 20:1 ซึ่งตรงนี้เราต้องหันกลับมาดูแหล่ง Omega-3 ที่เราได้รับในชีวิตประจำวันว่าเพียงพอหรือไม่ โดยแหล่งอาหารที่มีกรดไขมันชนิดนี้อยู่มากก็คือปลาและอาหารทะเลนั่นเอง แต่อย่างไรก็ตามในปัจจุบันการบริโภคไขมันส่วนใหญ่ของเราไม่ได้มาจากแหล่งธรรมชาติเหมือนอย่างที่บรรพบุรุษของเราเคยเป็น ไขมันจากสัตว์ที่เรารับประทานในปัจจุบันก็มักเป็นสัตว์จากฟาร์ม ที่มาจากการเลี้ยงด้วยฮอร์โมนและสารเคมีต่าง ๆ ดังนั้น เราอาจจะต้องใส่ใจในการเลือกแหล่งไขมันของเราเพิ่มขึ้น และเลือกรับประทานไขมันให้หลากหลายชนิดนะคะ 

 

ทำไมไขมันจึงสำคัญต่อสุขภาพ?

  • ไขมันคือแหล่งพลังงานที่ดีของร่างกาย
  • ไขมันสำคัญต่อการทำงานของสมองและระบบประสาท
  • ไขมันช่วยทำให้ระบบฮอร์โมนต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ไขมันช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมวิตามินที่ละลายในน้ำมัน เช่น A, D, E และ K
  • ไขมันมีหน้าที่สำคัญในการห่อหุ้มร่างกายและอวัยวะภายใน รวมถึงมีหน้าที่ในการรักษาอุณหภูมิของร่างกายด้วย
  • การรับประทานไขมันช่วยทำให้เรารู้สึกอิ่ม ไม่หิวเร็ว ไม่หิวบ่อย เพราะไขมันต้องใช้เวลาในการย่อยนานกว่าสารอาหารชนิดอื่น

 

          จากที่เล่ามาข้างต้นจะเห็นได้ว่าจริง ๆ แล้ว ไขมันไม่ใช่ผู้ร้ายที่จะมาทำลายสุขภาพของเรา ในความเป็นจริงไขมันช่วยทำให้ระบบการทำงานต่าง ๆ ของร่างกายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่ทำร้ายตัวเรานั่นก็คือวิธีที่เราเลือกรับประทานไขมันต่างหาก ถ้าเราไม่รู้จักรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมหรือในปริมาณที่สมดุล ก็อาจทำให้เกิดโทษตามมาได้และรวมไปถึงวิธีที่มนุษย์เราเอาไขมันที่มีอยู่ตามธรรมชาติมาดัดแปลง มาผสมรวมกับสิ่งอื่น ๆ ก็ทำให้ย้อนกลับมาเป็นอันตรายต่อสุขภาพของเราเองค่ะ

--------------------------------------------------

โค้ชแพร - แพร เอมเมอรี่

ACE certified PT

ACE Certified Health Coach

PN Lv1 (Certificate in exercise nutrition)

Women Fitness Specialist (FIT)

โดย แพร แอมเมอรี่

ACE Certified PT, ACE Certified Health Coach, PN Level 1 certified

เมื่อ 26 Apr 2020 | อ่านแล้ว 4,087 ครั้ง

บทความที่เกี่ยวข้อง

“ข้อห้าม” 5 ข้อ เกี่ยวกับอาหารและการออกกำลังกาย ที่ควรเลิกเชื่อ และ 5 ข้อ ที่ควรทำความเข้าใจมากขึ้น เพื่อที่จะปลดล็อกตัวเอง และทำให้เราเปลี่ยนแปลงตัวเองได้อย่างมีความสุขมากขึ้น

เมื่อ 12 Aug 2020 | อ่านแล้ว 21,750 ครั้ง

มีใครเคยเห็นรูปตาม internet ที่แบ่งรูปร่างตาม % ของไขมันในร่างกาย ให้เราดูเป็นตัวอย่างว่า ถ้าหุ่นแบบนี้ เขามี % ไขมันกันเท่าไหร่ แล้วเราก็มักจะเอามาเป็นตัวกำหนดว่า ถ้าฉันอยากมีกล้ามท้อง ดังนั้นฉันต้องทำตัวเองให้มีไขมันเท่านี้ให้ได้!

เมื่อ 08 Jun 2020 | อ่านแล้ว 8,433 ครั้ง