บทความ
Easy run และ Long run
Easy Run, Long Run, Tempo และ Interval
4 รูปแบบการซ้อมวิ่งที่ครบถ้วน
ตอนที่ 1 : Easy run และ Long run
คำพูดติดปากสำหรับนักวิ่ง คงจะหนีไม่พ้น 4 คำข้างต้น แต่ทุกคนรู้หรือไม่ว่าแต่ละคำ หรือแต่ละรูปแบบการซ้อมวิ่งนั้น มีจุดประสงค์อะไรบ้าง มีวิธีการต่างกันหรือไม่ และมีประโยชน์อย่างไรกับนักวิ่ง
==============================
Easy run :
เป็นรูปแบบการซ้อมวิ่งที่มีจุดประสงค์ในการพัฒนาพื้นฐานของระบบหัวใจและการไหลเวียนเลือด (aerobic base)
เป็นการวิ่งที่ไม่หนักหรือเบาจนเกินไป เปรียบเทียบง่าย ๆ กับการวิ่ง jogging ที่เรายังสามารถพูดคุยกับคนรอบข้างหรือร้องเพลงไปด้วยได้ ถ้าหากประเมินความเหนื่อยเป็นตัวเลขจะอยู่ที่ประมาณ *RPE 3-5 (เต็ม 10) หรือประมาณ Zone 2
สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นฝึกวิ่ง easy run เป็นการวิ่งที่ทำให้เกิดการพัฒนาความแข็งแรง เมื่อวิ่ง easy run อย่างสม่ำเสมอจะทำให้รู้สึกเหนื่อยยากขึ้น เป็นการเตรียมร่างกายให้มีความพร้อมสำหรับการซ้อมวิ่งในรูปแบบอื่นที่หนักมากขึ้น
สำหรับนักวิ่งที่มีความแข็งแรงพื้นฐานที่ดี easy run เป็นการวิ่งที่ทำให้รักษาความแข็งแรงพื้นฐานหรือรักษาสภาพของร่างกายได้ (maintain) และ easy run ยังเป็นการฟื้นฟูสภาพร่างกาย (recovery) จากการซ้อมวิ่งในรูปแบบอื่นที่มีความหนักที่สูงกว่าได้อีกด้วย
.
.
Long run (LSD) :
เป็นรูปแบบการซ้อมวิ่งที่มีจุดประสงค์ในการพัฒนาความแข็งแรงของระบบหัวใจและการไหลเวียนเลือด (aerobic efficiency) รวมถึงพัฒนาความทนทานของกล้ามเนื้อ (muscular endurance)
เป็นการวิ่งในระดับความหนักปานกลาง เปรียบเทียบกับการวิ่งแล้วเรายังสามารถพูดคุยในประโยคสั้น ๆ ได้ โดยมีปัจจัยเรื่องระยะเวลา (อาจนาน 1-4 ชม.) หรือระยะทาง (อาจไกล 8-32 กม.) เข้ามาเกี่ยวข้อง ตามเป้าหมายของการซ้อมว่าเพื่อ mini (10k), half (21k) หรือ marathon (42k)
เป็นการวิ่งที่หากประเมินความเหนื่อยเป็นตัวเลขจะอยู่ที่ประมาณ RPE 5-7 (เต็ม 10) หรือประมาณ Zone 2 ปลาย ๆ - Zone 4 ต้น ๆ (ซึ่งอาจแปรผันตามปัจจัยภายนอก เช่น สภาพอากาศที่ร้อน, การดื่มน้ำไม่เพียงพอ หรืออุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น เป็นต้น
Long run เป็นการซ้อมวิ่งที่ทำให้นักวิ่งเกิดความคุ้นชินกับระยะทางหรือระยะเวลาที่จะต้องใช้ในการแข่งขันจริง อีกทั้ง long run ยังเป็นการเตรียมความพร้อมให้กล้ามเนื้อได้มีความทนทานมากพอที่จะทนต่อความเมื่อยล้าในการวิ่งระยะไกลได้
และในอีกมุมนึง (จากประสบการณ์ส่วนตัว) เราสามารถใช้การซ้อม long run วางแผนการวิ่งในการแข่งขันจริงได้ เช่น เราจะดื่มน้ำที่กิโลเมตรเท่าไหร่บ้าง เราจะเติมเกลือแร่ที่ตรงจุดไหน หรือเราจะเพิ่มความเร็วที่กิโลเมตรไหนบ้าง เป็นต้น
สำหรับอีก 2 รูปแบบการซ้อมวิ่งทั้ง tempo run และ interval ติดตามได้ในโพสต์นี้ครับ https://bit.ly/3xIommO
==============================
จอม โศรัจ แวววิริยะ
M.Sc. Sport Science (Sport Management)/ B.Sc. Sport Science (Sport Science), Chulalongkorn University, Thailand.
Certified Person Trainer (American Council on Exercise)
บทความที่เกี่ยวข้อง
การพักผ่อนที่เพียงพอ การกินอาหารให้ครบมื้อครบหมู่ การขยับร่างกายให้สม่ำเสมอ
เมื่อ 09 Nov 2022 |
อ่านแล้ว
2,272 ครั้ง
เพื่อน ๆ นักวิ่ง ในเพจฟิตดี ออกไปวิ่งตอนไหนกันครับ “ตอนเช้า” “ตอนกลางวัน” หรือ “ตอนเย็น” แล้วคิดว่าช่วงเวลาไหนดีที่สุด
เมื่อ 01 Sep 2022 |
อ่านแล้ว
1,580 ครั้ง
การหายใจที่ดีมีผลต่อการวิ่งที่ดี เพราะอย่างที่ทุกคนรู้กันดีอยู่แล้วว่า การวิ่งเป็นกิจกรรมต่อเนื่อง หรือที่เรียกกันว่า cardio (เกี่ยวกับระบบหัวใจและปอด)
เมื่อ 23 Feb 2022 |
อ่านแล้ว
7,120 ครั้ง
การฝึกการวิ่งแบบ Tempo run และ Interval คืออะไร ฝึกยังไง มีประโยชน์ยังไง
เมื่อ 06 May 2021 |
อ่านแล้ว
57,116 ครั้ง
ความแตกต่างของการฝึกวิ่งแบบวิ่งบนลู่และแบบซ้อมวิ่งบนถนนต่างกันยังไง
เมื่อ 29 Apr 2021 |
อ่านแล้ว
5,568 ครั้ง