บทความ

วิธีลดความอ้วนที่เวิร์คที่สุด

ในชีวิตนี้แน่นอนว่าเราเคยได้ยินวิธีการลดความอ้วนมานับไม่ถ้วน แล้วรู้มั้ยคะว่าวิธีไหนที่ได้ผลดีที่สุด
 
วันนี้เรามาคุยเรื่องนี้กันค่ะ
 
“เราจะลดน้ำหนักได้ เมื่อ
พลังงานที่รับเข้ามา (ที่เรากิน) น้อยกว่า พลังงานที่ใช้ออกไป (ที่เราออกกำลังกาย, ทำกิจกรรมต่างๆในแต่ละวัน)”
 
ไม่ว่าจะ IF, Keto, low carb, high protein , plant base , กินมัง หรือจะรูปแบบไดเอ็ทแบบไหนก็ตาม การที่น้ำหนักจะลงได้ยังคงอาศัยหลักการข้างต้นเช่นเดียวกัน
 
จากประโยคข้างบน ทำให้เราต้องมอง 2 อย่างคู่กัน
1. พลังงาน(แคลอรี่)ที่กินเข้ามาทั้งวัน
2. พลังงาน(แคลอรี่)ที่ใช้ออกไปทั้งวัน
    ถ้าน้ำหนักเราขึ้นเรื่อยๆ แสดงว่า ข้อ 1 มันมากกว่า ข้อ 2 พลังงานส่วนเกินก็จะสะสมเป็นไขมัน เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
    ถ้าน้ำหนักเราคงที่ แสดงว่า ข้อ 1 พอๆกับ ข้อ 2
    ถ้าเราอยากให้น้ำหนักลง เราต้องทำให้ ข้อ 1 น้อยกว่า ข้อ 2 (หรือ ข้อ 2 มากกว่า ข้อ 1 ) ซึ่งเรามีตัวเลือกวิธีต่างๆดังนี้ค่ะ
 
A. ลดการกินแคลอรี่ส่วนเกิน ใช้พลังงานพอๆเดิม
B. กินพอๆเดิม เพิ่มพลังงานที่ใช้ออกมากขึ้น
C.ลดการกินแคลอรี่ส่วนเกิน และ เพิ่มพลังงานที่ใช้ออกมากขึ้น
D. ลดการกินแคลอรี่ส่วนเกิน เพิ่มการกินสารอาหารที่ดีมีประโยชน์ให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยรักษาพลังงานรวมที่รับเข้ามาให้ยังน้อยกว่าพลังงานที่ใช้ออกไป ผ่านการออกกำลังกาย และการทำกิจกรรมระหว่างวันอย่างแอคทีฟ
 
เรามาดูกันค่ะ ว่าแต่ละข้อเหมาะกับใคร
 
A. ลดแคลอรี่ส่วนเกิน ใช้พลังงานพอๆเดิม
- เหมาะกับใคร
คนเริ่มต้นอยากลดน้ำหนัก ไม่เคยออกกำลังกายมาก่อน หรือยุ่งมาก เวลาน้อย ยังไม่สามารถแบ่งเวลาออกกำลังกายหรือขยับเขยื้อนเพิ่มขึ้นได้
- แคลอรี่ที่ควรลด ควรเป็นพวกขนมถุง, น้ำอัดลม, ของผ่านกระบวนการอุตสาหกรรมเยอะๆ, ของทอดน้ำมันเยอะ, ไขมันสัตว์ต่างๆ, น้ำหวาน, ชาเย็น, กาแฟเย็น, ขนมหวาน, ซอส, น้ำจิ้ม ฯลฯ
ไม่ใช่ไปลดแบบไม่ทานข้าว, ทานแต่สลัด, ไม่ทานเนื้อสัตว์, ทนหิว, กินวันละมื้อสองมื้อแบบน้อยๆ พูดง่ายๆคือ ลดแคลอรี่ส่วนเกิน ‘ที่ไม่จำเป็น’ ออก แต่โปรตีน, คาร์โบไฮเดรต, ไขมันจากพืชและจากสัตว์บ้าง, ผัก, ผลไม้ พวกนี้คือจำเป็นค่ะ
- ข้อเสีย : ลดน้ำหนักลงได้ถึงจุดหนึ่งเท่านั้น ไปต่อลำบาก และไม่มีกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น หุ่นไม่กระชับ
 
B. กินพอๆเดิม เพิ่มพลังงานที่ใช้ออกมากขึ้น
- เหมาะกับใคร
คนที่มีความสุขกับการกินแบบเดิม ไม่อยากลดอะไร ยอมออกกำลังกายเพิ่ม หรือเป็นคนที่ชอบออกกำลังกาย
- พลังงานที่ควรใช้ออกมากขึ้น ควรมี 2 ส่วน คือ การออกกำลังกาย และ การเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวันค่ะ การออกกำลังกายควรมีทั้งคาร์ดิโอเพื่อเผาผลาญพลังงาน และ เวทเทรนนิ่งเพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อ หลายๆคนมักลืมเรื่องสร้างกล้ามเนื้อ สนใจแต่คาร์ดิโอ ทั้งๆที่ เคล็ดลับของการลดไขมันให้ไวและยั่งยืนคือการพยายามให้มีกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น ยิ่งมีกล้ามเนื้อ เรายิ่งเผาผลาญพลังงานมากขึ้น แต่ถ้าอยากลดไขมันได้ไวขึ้นอีก การเคลื่อนไหวระหว่างวัน แอคทีฟ เดินเยอะขึ้น ยืนเยอะขึ้น ขยับร่างกายบ่อยขึ้น จะยิ่งสะสมการใช้พลังงานทีละเล็กทีละน้อยจนเป็นการใช้พลังงานก้อนใหญ่ได้ค่ะ
- ข้อเสีย: ถ้าพฤติกรรมการกินที่กินอยู่แคลอรี่สูงมาก แม้จะออกกำลังกายก็แล้ว แอคทีฟในชีวิตประจำวันก็แล้ว น้ำหนักก็อาจจะไม่ลง หรือทำได้เพียงชะลอการเพิ่ม ให้น้ำหนักขึ้นช้าลงเท่านั้น แต่ถ้าพฤติกรรมการกิน ไม่ได้มีแคลอรี่สูงมาก การออกกำลังกาย/การแอคทีฟเพิ่มขึ้น ก็อาจจะทำให้สามารถลดความอ้วนได้ เพียงแต่อาจจะทำได้ช้า
 
C. ลดการกินแคลอรี่ส่วนเกิน และ เพิ่มพลังงานที่ใช้ออกมากขึ้น
- เหมาะกับใคร
คนที่มีเป้าหมายในการลดความอ้วนจริงจัง พร้อมที่จะปรับ พร้อมที่จะลงมือทำให้ถึงเป้าหมาย อาจจะเคยลดแบบผิดๆมาก่อนแล้วไม่เห็นผล หรือเห็นผลแต่ไม่ยั่งยืน
- ข้อนี้จะเป็นการเพิ่มความเร็วให้กับการลดความอ้วนของเราค่ะ เพราะเราทั้งลด calorie in และเพิ่ม calorie out ทำให้ส่วนต่างของแคลอรี่ที่หายไปเยอะขึ้น และถ้าเราเล่นเวทด้วย คาร์ดิโอด้วย เราจะมีรูปร่างที่ดีขึ้นอย่างชัดเจนค่ะ
- ข้อเสีย: มันเป็นการปรับทั้งกิน ทั้งออกกำลังกาย ดังนั้น คนที่มีเป้าหมายไม่ชัดเจน อาจจะยังไม่เหมาะค่ะ และคนที่ไม่มีพื้นฐานว่าอะไรคือแคลอรี่ส่วนเกิน หรือการออกกำลังกายควรเป็นแบบไหน อาจจะทำได้ไม่ดี หรือกลายเป็นหักโหมเกินไปค่ะ
 
D. ลดการกินแคลอรี่ส่วนเกิน เพิ่มการกินสารอาหารที่ดีมีประโยชน์ให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยรักษาพลังงานรวมที่รับเข้ามาให้ยังน้อยกว่า พลังงานที่ใช้ออกไป ผ่านการออกกำลังกาย และการทำกิจกรรมระหว่างวันอย่างแอคทีฟ
- เหมาะกับใคร
คนที่มีความจริงจังที่จะดูแลตัวเอง หรือคนที่ผ่านการลดความอ้วนเองมาแล้ว คอยลองมาแล้ว อาจจะทั้ง A,Bและ C จนมีความจริงจังมากขึ้น อยากจะไปขั้นที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น อยากทั้งหุ่นดีขึ้น และสุขภาพดีขึ้นอย่างแท้จริง
- ที่สุดของเคล็ดลับคือข้อนี้ค่ะ เพราะการกินเยอะ จะช่วยรักษาระบบเผาผลาญของร่างกายให้ไม่ต่ำลง อีกทั้งการได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์สูง จะทำให้ระบบต่างๆของร่างกายทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดังนั้นกินให้เยอะ แต่เยอะอย่างถูกประเภท และใช้ออกทั้งเล่นเวท, คาร์ดิโอและแอคทีฟในการทำกิจกรรมต่างๆระหว่างวัน จะทำให้เรามีสุขภาพที่ดีขึ้น พร้อมๆกับการมีรูปร่างที่ดีขึ้นได้อย่างเต็มที่ค่ะ
- ข้อเสีย: อาจจะไม่เหมาะกับคนที่ไม่มีเป้าหมายชัดเจน หรือการมีสุขภาพที่ดีขึ้น หุ่นที่ดีขึ้นยังไม่ใช่ความสำคัญอันดับแรกๆของชีวิต
สรุปแล้ว วิธีลดความอ้วนแบบไหนที่ดีที่สุดนั้น ขึ้นอยู่กับว่าเหมาะสมกับเราหรือเปล่า หรือต้องเรียกว่าเหมาะสมกับ “ชีวิตช่วงนี้” ของเรารึเปล่า เราเหมาะกับแบบไหน ความตั้งใจเราเป็นยังไง สิ่งที่ต้องทำความเข้าใจเลยคือ ถ้าเราทำเพียงแค่ข้อ A อย่าหวังผลของข้อ D เราต้องเข้าใจผลลัพธ์ของแต่ละแบบว่าวิธีการคืออะไร
 
ดังนั้นไม่ผิดเลย ถ้าคุณจะเลือก A หรือ B ในช่วงหนึ่งของชีวิต แล้วปรับเป็น C หรือแม้กระทั่ง D เมื่อถึงเวลาที่คุณพร้อม
 
แต่ที่แน่ๆ พวกเรา ทีม Fit-D พร้อมจะอยู่กับคุณไปตลอดทางนะคะ และเราดีใจเหลือเกินที่หลายๆคนให้เราอยู่ข้างๆ ในทุกช่วงชีวิตที่คุณดูแลสุขภาพตัวเองค่ะ ขอบคุณนะคะ 
 
ถ้าตอนนี้ใครทำตามแบบข้อ A, B, C หรือ D อยู่ พิมพ์บอกกันได้นะคะ
 
วาวเองค่ะ
 
วรงค์พร แย้มประเสริฐ
PN LV1
โดย Wow Fit-D

ACE certified PT PN Level 1 certified Training Pregnant and Post-Patum client Senior Fitness Specialist

เมื่อ 15 Nov 2021 | อ่านแล้ว 1,079 ครั้ง

บทความที่เกี่ยวข้อง

การจะเริ่มเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง คนที่ล้อมรอบเราควรร่วมรับรู้ด้วย ไม่เช่นนั้นการเปลี่ยนแปลงของเราจะเป็นไปได้ยากมาก

เมื่อ 24 Nov 2021 | อ่านแล้ว 1,315 ครั้ง

วันนี้วาวชวนมาคิดเรื่องการลงทุนกันค่ะ รู้มั้ยคะว่า ถ้าเราไม่ลงทุน สิ่งที่มีก็ยิ่งร่อยหรอ ไม่ใช่มีเท่าเดิมนะคะ แต่ยิ่งมีน้อยลงเรื่อยๆค่ะ

เมื่อ 14 Feb 2022 | อ่านแล้ว 1,959 ครั้ง